Listen to your heart-เสียงกระซิบจากอนาคต 1
ตอนที่ 1: ของฝากจากคนเคยแปลกหน้า
"หากแยกเสียงนั้นไม่เป็น มันอันตราย
และเมื่อเข้าใจเสียงนั้น มันจะมีแต่พัฒนาการ..."
หากคุณต้องการรู้จักกับตัวเอง
เพียงเหมือนกับสิ่งมีชีวิตหนึ่งบนโลก ชีวิตหนึ่ง
คุณจะคุยอะไรกับเขา? คุณจะถามอะไร?
อยากรู้สิ่งไหน? รู้ไปทำไม? เพื่ออะไร?
การสื่อสารกับตัวตนแท้จริงที่อยู่ภายในของเราเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญ
เพราะสิ่งที่อยู่ภายในนั้นเป็นตัวตนที่ไม่ถูกผูกมัดด้วยสังคม หน้าที่การงาน
เราคุยกับตัวตนของเราอย่างเรียบง่ายในทุกวัน
เรามักปลอบโยนตัวเองเสมอทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัว
เรามักหาวิธีสื่อสารกับตัวตนของเราเพื่อเติมพลังงานให้กับตัวเอง
เพื่อเพิ่มแรงขับภายในให้แข็งแรง และหาพลังงานมาเติมจิตใจให้สมบูรณ์เสมอ
สำหรับการทำหน้าที่จากจิตวิญญาณภายในทั้งที่รู้ตัวและดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ
แต่ความสำคัญอยู่ที่แรงขับจากภายในที่แท้จริงนั้น มาจากอะไร?
แรงขับที่มาจากความสุข ความทุกข์ ผิดหวัง ล้มเหลว
หรืออยากให้สมหวังเพียงเพื่อให้พ้นจากทุกข์
เรามักแสวงหาพลังใจ เพื่อให้เกิดแรงขับจนก่อพลังงาน
เพื่อทำให้ชีวิตนั้นเดินต่ออย่างมีความหมาย ที่หลายๆครั้งเรามักหลงลืม หรือบางทีอาจไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า
เรามีลมหายใจอยู่นั้นเพื่ออะไร?
ที่เราทำอยู่นั้น เพื่อสิ่งที่เรากำลังต้องการจริงๆเหรอ?
บางเรื่องคุยกับคนอื่นได้ แต่หลายเรื่องต้องสื่อสารกับตัวเอง เพียงลำพัง
เราจึงหาหาวิธีต่างๆเพื่อเยียวยาและรักษาจิตใจของตัวเอง
ให้กลับมามีพลังที่เต็มเปี่ยม เพื่อลุยต่ออีกครั้ง
ความผิดหวังเล็กๆ การตกอยู่ในโลกแห่งความขมขื่น
อึมครึมจมอยู่กับความทรงจำครั้งอดีตที่ล้มเหลวมานับไม่ถ้วน
จนรู้สึกชาชินและเข็ดขยาดกับเรื่องราวใหม่ สังคมและสิ่งแวดล้อมใหม่
ขาดพลังขับเคลื่อนเหมือนจมอยู่ในหลุมลึกที่มืดมิด
ไม่อยากที่จะลุกยืนขึ้นปีนออกจากหลุมนั้น แม้มีคนมาฉุดก็ไม่ยอมออกจากหลุมนั้น
ทำให้ภายนอกของเราดูเหมือนมีความเศร้า แม้ยามหัวเราะร่าเริง
ความอ่อนแอในใจทำให้เราต้องหาฮีโร่ในดวงใจสักคน
ผู้ที่คอยลากเราขึ้นจากหลุมดำหลุมนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า
หากแต่ข้อจำกัดของความเป็นมนุษย์ทำให้เราต้องผิดหวังกับฮีโร่เหล่านั้นครั้งแล้วครั้งเล่า
บรรทัดต่อจากนี้ไป ผมจะค่อยๆเล่าถึงเวลาที่ผมได้คิดและใช้ไป อย่างไรก็ตาม ผมหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะสามารถทำให้คุณได้รู้จักกับบุคคลสำคัญที่สุดในชีวิต นั่นคือ ตัวคุณเอง
ขอให้โชคดีครับ - 케니 -
01.08.2017
...........................................................................................................
Listen to your heart-เสียงกระซิบจากอนาคต
ตอนที่ 1: ของฝากจากคนเคยแปลกหน้า
“เมื่อได้ยินเสียงกระซิบจากตัวตนของคุณ จงก้าวออกไป
.....จากนั้นคอยตั้งใจฟัง และเดินตามเส้นทางนั้น...”
คำถามคือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่านั่น! เป็นเสียงของใคร?
....เสียงของตัวตนแห่งความสำเร็จของเราในอนาคต
หรือเป็นเสียงของกลุ่มปีศาจที่กำลังไล่ล่าเรา…
ที่สำคัญคือ
เราต้องต่อสู้กับเสียงอันสับสนนั้นมานานแค่ไหนแล้ว?
สมุดสเก๊ตช์ปึกใหญ่เล่มหนาสีฟ้า ถูกบรรจงเขียนชื่อบนหน้าปก
ส่งมอบให้กับผมเพื่อเป็นที่ระลึกจากเพื่อนชาวเกาหลีของผมคนหนึ่ง
ซึ่งมอบให้ก่อนกลับประเทศ เขาบอกให้ผมเก็บไว้วาด วาดอะไรก็ได้
ครั้งแรกผมปฏิเสธ แต่ในที่สุดก็ต้องรับสมุดเล่มนี้ไว้
และหลังจากวันนั้น ชีวิตของผมก็เริ่มเปลี่ยนไป
ความบังเอิญเริ่มตั้งแต่ผมตัดสินใจเก็บเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชุด
เพื่อจะเดินทางโดยมีเป้าหมายที่ไร้แผนการ
ผมคิดเพียงแค่จะเดินทางไปบริเวณด่านชายแดนซึ่งเปิดขึ้นใหม่ที่ประเทศไทย
ผ่าน “ด่านภูดู่” ประตูสู่ลาวเหนือล้านช้างหลวงพระบางประเทศลาว
เพื่อเข้าประเทศเวียดนามสู่เมืองซาปา
เรื่องราวดีๆที่เกิดขึ้นระหว่างทาง โดยเฉพาะมิตรภาพของชาติพันธ์ที่หลากหลาย
เสน่ห์ที่แตกต่างทำให้เรามองเห็นมุมมองอันหลากหลาย
จนกระทั่งผมได้เจอกับพวกเขาโดยบังเอิญ
เราเจอกัน 3 ครั้งระหว่างการเดินทาง 2 โรงแรม ใน 2 ประเทศ จากการทักทายกันเพียงรอยยิ้ม
ในที่สุดเราก็เริ่มสอบถามพูดคุยและแลกเปลี่ยนทริปเดินทางกันว่ามีที่ไหนน่าสนใจกว่าที่รู้หรือไม่
ปรากฏว่าเส้นทางของเราตรงกัน
คงเพราะเราต่างไม่กำหนดมาก่อนว่าจะไปไหนก่อนหรือหลัง
ทุกอย่างจึงปรับเข้าหากันอย่างง่ายดาย
แน่นอนว่าหากเราไม่อยากร่วมทางในเส้นทางเดียวกัน ทุกอย่างก็จะปรับออกห่างกันอย่างง่ายดายเช่นกัน
คิม เท่ฮอน และชอล ยอนชู สามีภรรยาชาวเกาหลี
นักเดินทางที่ตามเก็บวิถีชีวิต ความคิด ของผู้คนในแถบอาเซียนกว่าสามเดือน
พวกเขาเดินทางมาเพื่อสร้างฝันหลายๆอย่าง เป็นเหมือนภารกิจของชีวิตที่พวกเขาต้องทำในชีวิตนี้
เราเดินทางไปด้วยกันโดยผมไม่รู้ว่าพวกเขาทำงานอะไร
และเดินทางนานหลายเดือนแบบนี้ ด้วยจุดประสงค์อันใด
ซึ่งพวกเขาเองก็รู้จักผมน้อยเช่นกัน
แต่เสียงจากภายในบอกผมว่า
เราควรใช้เวลาที่มีอยู่เพียงน้อยนิดนี้ร่วมกันอย่างมีคุณค่า
พวกเราอยู่ใช้ช่วงเวลาที่บรรจบกันตั้งแต่ลาว เวียดนาม
กระทั่งถึงประเทศไทย ซึ่งมันทำให้พวกเราสนิทกันจนยากที่จะร่ำลา
จนเป็นที่มาของสมุดสเก๊ตช์ และมิตรภาพ
ซึ่งเปรียบเหมือนของขวัญแห่งชีวิตของผม ณ ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต
ที่สำคัญ คงเป็นความพิเศษของภาพแต่ละภาพนั้นถูกส่งมาจากเสียงกระซิบที่มาจากภายใน
ผมเรียกมันว่า “เสียงกระซิบจากอนาคต”
ซึ่งส่งมอบให้กับผมเพื่อขบคิดและตีโจทย์ให้ดีในวันต่อวัน
ในช่วงเวลานั้นความหวาดหวั่นยังคงเป็นเสียงกระซิบอีกด้าน
ที่อยู่ตรงข้ามซึ่งกำลังใช้ความพยายามเพื่ออธิบายว่า
สิ่งที่ผมกำลังทำนั้นไม่มีทางที่จะทำได้สำเร็จ เพราะในอดีตผมไม่เคยทำสำเร็จ
เหตุผลแห่งความล้มเหลวถูกส่งมาเป็นข้อๆ ถึงนิสัยดั้งเดิมของผม
“นายจะมีโอกาสได้วาดสักกี่แผ่นกัน
นายอาจเอาไปเขียนเล่น อาจสเก๊ตซ์งานทิ้งไว้
จากนั้นหากใช้ไม่ได้นายก็ขยำทิ้ง หรือไม่ก็วางกองอยู่บนชั้นและใช้ไปไม่ถึงครึ่ง
ไร้ประโยชน์ อาจเพราะกลัวหมด กลัวกระดาษเสีย กลัวงานไม่ดี
กลัวเสียงาน กลัวเพื่อนเสียใจ กลัวไม่มีเวลา กลัวผิดคำพูด”
ในขณะที่เสียงอีกด้านพยายามตะโกนด้วยเสียงอันดังกึกก้องในห้วงของความคิดว่า
“นี่คือโอกาสที่วิเศษที่นายจะได้ฝึกวินัยของตัวเอง ฝึกเปลี่ยนมุมมอง
ฝึกสังเกตความคิดของตัวเองในแต่ละวัน ฝึกฝีมือ
ฝึกความรับผิดชอบต่อเสียงภายในทีไม่มีใครล่วงรู้ ภาพเหล่านี้อาจเป็นบางอย่างที่นายคาดไม่ถึง
เพราะไม่มีทางรู้ว่าแต่ละภาพจะเป็นอย่างไร
และเมื่อรวมทั้งหมดแล้วนายอาจได้ภาพที่รวมนายไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
นายจะเห็นตัวตนที่ผ่านมาของนายใน 1 ปี นายจะเห็นความพยายาม ความตั้งใจ
และความซื่อสัตย์ต่อตนเอง”
สารพัดความหวังและกลัวที่กำลังต่อสู้กันอยู่ภายในความคิด
มันดูอบอวล อึมครึม ดั่งพายุที่กำลังก่อตัว ทำให้ผมดูเหมือนหยิ่ง เหม่อลอย เซื่องซึม
คุยไม่ค่อยรู้เรื่องในสภาพการกระทำของร่างกายภายนอกกับสังคมรอบข้าง
ผมคิดจากพื้นฐานเดิม ประสบการณ์เดิมต่อไปว่า
จะเขียนอะไรดี วาดภาพขาวดำ ภาพดินสอ หรือรวมๆกันคละกันไป
วาดไปเรื่อยๆเจออะไรกวาด
ปัญหาคือ จะวาดอะไรหมด ผมขยันขนาดนั้นเลยเหรอ?
ทุกอย่างนั้นเริ่มต้นจากก้าวแรก เพราะเมื่อเริ่มต้น
กระบวนการ วิธีการ ตลอดจนกระทั่งเวลา เราจะได้รับ เวลาจะขยาย
และมอบโอกาสให้กับเราเท่าที่เราต้องการ
ความมุ่งมั่นจะสร้างเครื่องมือให้เราและส่งความร่วมมือมาให้กับเรา
ผมเชื่อแบบนั้น ...
ผมเชื่อในแผนการที่สัญชาติญาณอันเป็นพื้นฐานแห่งตัวตนของเรา
ตัวตนของเราจากอนาคตจะคอยกระซิบเสียงส่งมอบให้
และตอนนี้ ผมขยับตัวตอบรับเสียงกระซิบนั้นแล้ว
ผมเลือกที่จะ ลงมือทำ!
............................
Next >> ตอนที่ 2: กระดาษที่ว่างเปล่า No.000 : เริ่มต้นจาก 0