Listen to your heart-เสียงกระซิบจากอนาคต 3
ตอนที่ 3: 001-007 เสียงที่เราได้ยินเพียงลำพัง
เรารู้จักตัวเองดีพอหรือยัง? คำถามที่ตัวเราเองต้องตอบให้ได้ ว่าเสียงที่กระซิบอยู่ข้างๆหูเรานี้คือใคร เพราะเสียงนี้ คือสิ่งที่สามารถสร้างโอกาสหรือปัญหาให้เราได้เสมอ
ในบทนี้เป็นหมวดที่1 สำหรับการรู้จักตัวเอง เริ่มตั้งแต่ ภาพที่ 001-111
คำแนะนำ ในการชมภาพที่ผมจะจัดมาไว้ชุดละ 7 ภาพ มองภาพรวมตามลำดับภาพ มองเฉพาะในแต่ละภาพ จากนั้นลองฟังเสียงกระซิบภายในนั้นดูว่ากำลังบอกอะไร แล้วลองอ่านข้อความของแต่ละหัวข้อ ดูว่าสอดคล้องกับที่เสียงของคุณเองคอยกระซิบหรือไม่
คุยกับตัวเองบ้าง ( แต่อย่าคุยเสียงดังเหมือนในละครนะ)
จากนั้นก็ผสมผสานทั้งข้อความของตัวเอง และข้อความที่อ่าน ฟังเสียงนั้นดูอีกครั้ง...แล้วหยุดคิดว่าเป็นอย่างไร เราสามารถฟังบ่อยได้เท่าที่เราต้องการ ข้อความไหนที่กำลังบอกให้เราได้รู้จักกับตัวเองมากขึ้น ค่อยๆย้อนไปในอดีตช้าๆ ย้อนกลับไปในความทรงจำ ในความฝันที่ไม่อาจลืม ค่อยๆขยับตัวไปเยี่ยมชมตนเองอนาคต แล้วกระซิบบอกเบาๆว่า
อย่าลืมแวะมาเตือนเราบ้าง เมื่อเราเริ่มเดินผิดเส้นทาง หรือแวะให้พลังใจว่า นี่คือเส้นทางที่ใช่...ให้เรามั่นใจ ว่าจะมาถึง วันนี้ วันแห่งอนาคต
เริ่มชมภาพกันเลยครับ
V V ..........................................................................
001/333 : เพียงลำพัง
“แน่ใจนะว่าในความเงียบที่ปรากฏอยู่ภายนอกนั้น ข้างในก็เงียบสงบไม่ต่างกัน”
เรารู้ว่าตัวเองสับสน เพราะการเริ่มต้นนั้นมันยากเสมอ แต่การที่จะทำให้สำเร็จนั้นยากกว่าหลายเท่าตัวนัก บางอย่างในความคิดที่เปรียบเหมือนกระแสลมในนั้น บ่อยครั้งมันกลายเป็นพายุที่เข้ามาทำร้ายตัวเอง
หลายครั้งเราเห็นมัน....แต่ไม่สามารถหยุดยั้งได้
เรามักมีคำถามที่ยังค้างคาใจสำหรับตัวเองเสมอ เพียงสิ่งเดียวที่เราไม่รู้คือ อะไรคือคำถามนั้น! เมื่อไม่มีคำถามให้กับชีวิตตัวเอง ย่อมเลือกหาคำตอบที่แท้ของตัวเองจริงไม่ได้
เพราะเรามัวแต่ลอกคำตอบที่ถูกส่งต่อกันมา โดยไม่เคยตั้งคำถามให้กับตัวเองเลยว่า แท้จริงแล้ว ชีวิตเราต้องการอะไร?
002/333 : ตั้งใจฟัง
"ความสุข"
ชีวิตเราต้องการความสุข
ความสุขที่สังคมกำหนด หรือเริ่มต้นมีความสุขโดยที่เรากำหนด เสียงของอนาคตจะไม่ทำให้เรารู้สึกแย่ หรือเอาแต่นั่งน้อยใจ เฝ้าโทษแต่ตัวเองในทุกเหตุการณ์ที่มากระทบ
หลายครั้งเรารู้สึกเหมือนมีคนจ้องมอง เราไม่กล้า เราคิด เรากลัว เราตามหาตัวเอง และคิดไปต่างๆเพื่อมองเข้ามาว่า มีสิ่งใดในตัวของราเองที่จะสามารถนำมาออกมาสร้างสรรค์ได้บ้าง
ความเจ็บปวด มันทำให้เราเข้มแข็งใน ขณะเดียวกันมันก็ทำให้เราขยาดกลัว ความกลัว มักทำให้เรากล้าแกร่ง
ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้เราไม่กล้าเผชิญ
นั่นก็ทำให้เกิดคำถามเกิดตามมาอีกว่า
แล้วเราจะต้องกล้าอะไร หรือควรที่จะกลัวอะไร เพื่อการสร้างสรรค์
เพราะเสียงของอนาคตจะไม่ทำให้เราหมดเรี่ยวแรงที่จะลุกขึ้น ขาดแรงจูงใจ หรือไร้ซึ่งแรงบันดาลใจ สายตาที่จ้องมองอยู่นั่นไม่ใช่อื่นใด เป็นสาตาที่เราต้องมองตัวเอง
003/333 : ทุกอย่างที่ผ่านโพ้น
ผมตื่นก่อนอาทิตย์ที่เตรียมฉายแสงในทุกๆวัน
03.33 น. เป็นเวลาที่ผมตื่นมาซ้ำๆกันมาหลายเดือน ตั้งแต่ก่อนเดินทาง จนกระทั่งมาถึงเวลานี้ ผมถูกเรียกให้ลืมตาด้วยหมายเลย 333 ในความฝัน และพร้อมกับตัวเลขของนาฬิกา 03.33 น.
มีคนเคยกระซิบบอกผมเสมอว่าอนาคตของเรานั้นเราสามารถสร้างด้วยตัวเราเอง
เพียงเรากล้าที่จะวาดและกำหนดสิ่งนั้นลงไป
ภาพหลายๆภาพจากความฝัน ความทรงจำส่วนลึกที่เราไม่มีวันเข้าใจในเวลาสั้นๆ เมื่อเริ่มนำทุกอย่างที่ผ่านมาประกอบกันเป็นรูปร่าง
สามเหลี่ยมที่ผมเคยผ่านตา ถูกซ้อนกันมากขึ้น
ซ้อนกันจนเกิดภาพสามเหลี่ยมที่ซ้อนต่อๆกันโดยไม่รู้จบ ทั้งภายนอก ภายใน เหลี่ยมมุมตัดกันไปมาซ้อนทับกันมากมาย
ภาพของชีวิต ความจริงและความฝัน
ถูกนำปะติดปะต่อรวมกันจนกลายเป็นภาพใหญ่
ในที่สุดเป้าหมาย 333 ภาพ ภายใน 365 วันก็เกิด
โดยที่ เราไม่มีทางรู้ว่า 333 ภาพนั้นจะรวมตัวกันเป็นภาพใหญ่ กลายเป็นบางอย่างที่คาดไม่ถึง ไม่เคยมีใครเห็น
เป้าหมายทุกเรื่องก็เช่นเดียวกัน กำหนดออกไป แล้วเดินหน้าทำให้สุดกำลัง
004/333 : สามเหลี่ยม
ชีวิต ความรัก และความตาย
สิ่งที่ก่อให้เกิดเป็นเราและไม่อาจคาดเดาได้แม้แต่ตัวเราเอง สามมุมเหลี่ยมที่ถูกทับซ้อนกันเกิดเป็นภาพใหม่ ภาพดูคล้ายกับสัญลักษณ์ของเดลต้ากลับด้าน
ความสงบที่แท้จริงนั้น
บางทีอาจอยู่อีกฝากที่เรากำลังยืนมองอยู่ก็เป็นได้
หลายครั้งเรายืนมองตัวเองลอยหายพร้อมกับโอกาสที่สังคมบอกว่าดีและเหมาะสม เราเลือกที่มุ่งสู่ทางอีกด้านของความคิดที่เราหวัง
แล้วหายไปพร้อมกันในนั้นคนแล้ว คนเล่า
005/333 : เสียง
อย่าคาดหวังกับสิ่งใด แต่จงทำความเข้าใจในสิ่งนั้น สลายความคิดเดิมก่อนถูกเติมเต็มในวันใหม่
สลายความขุ่นใจจากวันวาน
มันไม่มีประโยชน์อะไร นอกจากไฟที่ครุกรุ่นอยู่ภายใน ที่คอยเผาในใจให้ทุรนทุรายจากกระแสความคิดที่วิ่งผ่าน ส่งกระแสไฟฟ้ากันไปมาจนเหมือนกับว่า
คลื่นบรรยากาศรอบด้านจะกระเพื่อมด้วยแรงสั่นอันนี้
เราสามารถเริ่มต้นที่ตัวเราและจบลงที่ตัวเราเองได้เสมอ
006/333 : เฝ้ารอคอย
ทำไมหลายครั้งเราบอกกับตัวเองว่า เราไร้ความสุข อาจคงเพราะเผลอคอยจ้องแต่มองความสุขในครั้งอดีต และติดอยู่ในนั้นจนลืมมองหาความสุขในปัจจุบัน ขณะที่เรามีโอกาสได้สูดลมหายใจเข้า-ออกอย่างไม่ติดขัด
หรือไม่ก็เอาแต่คาดหวังความสุขจากอนาคตที่วาดฝันไว้ ยึดแต่เป้าหมายของอนาคตไว้ไม่ยอมปล่อย การรอคอยผลการตัดสินใจของคนอื่นทำให้เรากังวลกว่าที่ควรจะเป็น
ความกระวนกระวายใจมันยังคงอยู่ในนั้น มันทำให้ไม่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติ หากเรายังคงแบกรับเศษซากของมัน
หลังจากที่เราได้ทุ่มเทลงไปเต็มที่แล้ว
หลายครั้งเราไม่สามารถรับรู้คำตอบที่ชัดเจนได้ทันที
สิ่งสำคัญคือเรากำลังถูกกลืนจากอนาคตที่ เราพยายามควบคุมความน่าจะเป็นในปัจจุบัน
007/333 : ความจริงคือตอนนี้
ไม่มีความสำเร็จเกิดขึ้นจากการรอคอย ทุกสิ่งเกิดจากผลแห่งการกระทำเมื่อมีเหตุย่อมมีผล เมื่อรับผลกระทบบางอย่างก็ต้องมีสาเหตุจากบางสิ่งเช่นเดียวกัน
และเมื่อเรายังคงติดกับดักของอดีตและอนาคต เราจะสูญเสียปัจจุบันไปอย่างน่าเสียดาย เพราะนั่นเท่ากับการไม่พัฒนา การไม่ก้าวหน้าสู่สิ่งใหม่ นอกจากผลกระทบเดิมๆที่เคยได้รับ
นั่นคือความว่างเปล่าจากการรอคอย
ความจริงคือตอนนี้ เหตุที่เราจะปลูกไว้สำหรับอนาคต
.............................................