Listen to your heart-เสียงกระซิบจากอนาคต 4
ตอนที่ 4: 008 - 014 ฟังความคิด
ก่อนที่จะชมภาพชุดต่อไปลองถามตัวเองให้ชัดๆก่อนว่า
เรารู้จักตัวเองดีพอหรือยัง? หลายคนอาจบอกว่ารู้แล้ว....ผมขอแสดงความยินดีด้วยครับ แต่ลองตอบคำถามนี้ในใจเงียบๆคนเดียวก่อนว่าหากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น
คุณพร้อมที่จะเปลี่ยนความตั้งใจ หรือคำอธิษฐานกันทันทีหรือไม่?
ลองอ่านเรื่องนี้ดูครับ เรื่องของผมเอง......
ผมเคยคิดว่าผมเป็นคนที่เด็ดขาดและมั่นคงทางจิตใจมาก
แต่หลายเหตุกาณ์ในชีวิต ทำให้ผมต้องขอเปลี่ยนคำอธิษฐานครั้งแล้วครั้งเล่า
จากคำอธิษฐานอันแสนอลังการของผม
ในวันหนึ่ง ผมต้องขอเปลี่ยนคำอธิษฐานนั้นเป็นเพียงเรื่องง่ายๆ
ผมอยากนวดให้พ่อ ตามที่ท่านเรียกร้อง ซึ่งก่อนหน้านั้น ผมมักเลี่ยงและไม่ยอมสนใจคำขอท่านประจำ ก็พ่อแค่เหนื่อย เมื่อยจากงาน ซึ่งผมก็ทำงานมาเหมือนกัน จนกระทั่งท่านเป็นมะเร็งที่ตับระยะสุดท้าย ซึ่งมันคือสาเหตุที่ทำให้ท่านปวดหลังเป็นประจำ แตะโดนตัวเป็นไม่ได้ ท่านคงเจ็บปวดไปหมด
จากคำอธิษฐานขอให้ร่ำรวย มีเงินทอง ลูกน้องบริวารมากมาย กลายเป็นขอให้พ่อหายป่วย แล้วผมจะดูแลพ่อ อย่างอื่นไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวค่อยหาใหม่ ไม่มีก็ได้กินเท่าที่มีก็พอ แต่คำอธิษฐานนั้น ไม่ได้ผล...ในที่สุดพ่อก็จากผมไปด้วยโรคมะเร็ง ผมเริ่มต้นใหม่...
10 ปีต่อมาผมก็ขอเปลี่ยนคำอธิษฐานอีกครั้ง คราวนี้ขอเพียงแค่พาแม่ไปกินอาหารเวียดนามที่แม่อยากไป หลังจากเลื่อนมาหลายรอบ ผมก็ไม่มีโอกาสนั้น เพราะหมอตรวจพบว่าแม่เป็นมะเร็งลำไส้ ผมเปลี่ยนคำอธิษฐานอีก ขอให้แม่หายป่วย แต่ก็ไม่มีปฏิหาริย์ใดๆสำหรับคำอธิษฐานของผม
นี่แหละ! เราจะรู้ว่าสิ่งไหน คือ สิ่งที่เราต้องการจริงๆ จะรู้จักกับชีวิตของตัวเองจริงๆ หลายๆครั้งเราไม่มีโอกาสที่จะแก้ไขมันได้เลย จึงเข้าคำถามเดิมอีกครั้งว่า
เรารู้จักตัวเองดีพอหรือยัง?
เราทำทุกวันนี้เพื่อสิ่งใด และเราจะยอมสูญเสียอะไรไปก่อนเวลาอันควรบ้างในชีวิต วันนี้ผมมีโอกาสวาดรูป ผมต้องวาด มีโอกาสทำดีกับคนที่ผมรัก ผมต้องทำ มีโอกาสคิดสร้างสรรค์เพื่อสังคมใหญ่ๆสักครั้งในชีวิต ผมต้องคิด มีโอกาสรู้จักมิตรดีๆ ผมต้องรักษา มีโอกาสสร้างชื่อให้ท้องถิ่น ให้ประเทศจากความสามารถของผม ผมต้องทำ นี่แหละครับ! สุดท้ายแล้วเราจะพบกับความต้องการที่แท้จริงของเราเอง เมื่อมีโอกาสต้องหาให้เจอ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้แก้ไข เพราะเมื่อเวลาผ่านไป เราไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ นอกจากการให้อภัยตัวเอง ซึ่งมันยากเอาการ! มาทำความรู้จักตัวเองกันต่อ ที่งานชุดนี้ว่าเราเห็นอะไร ได้ยินอะไร ลองคุยกับตัวตนที่แท้จริงของเราเอง พร้อมค่อยๆดู ค่อยๆอ่านกันได้เลยครับ
008/333: ความจริงคือสิ่งที่เราทำ
เรายังมัวขอความสุขหรือคาดหวังความสุขบนโลกนี้จากใครอยู่หรือเปล่า? ยังมัวสร้างข้ออ้างไม่ยอมลงมือทำบางสิ่งที่ตั้งใจ ไม่เคยค้นหาความสุขเล็กๆรอบด้าน หรือยังไม่เคยสร้างความสุขให้กับใครด้วยตัวเอง
โลกที่เราอยู่อาจเป็นโลกที่แบนเดินจากจุดหนึ่งไปถึงจุดหนึ่งก็สุดขอบ เรื่องราวก่อภาพมากมายในแต่ละวินาทีซ้อนทับกันไปมา เราเลือกภาพในความทรงจำเพียงไม่กี่ภาพแล้วเดินไป หรือเรากำลังวุ่นอยู่กับภาพชีวิตทุกภาพแล้ววิ่งวนอยู่ในนั้น
บางภาพเป็นภาพในอดีตฉายวนซ้ำกันไปมาหลายรอบ บางภาพเป็นเรื่องสั้นที่ฉายเพียงไม่กี่นาทีหรืออาจเนินนานเป็นชั่วโมง หากหนังสือเล่มหนึ่งคือชีวิตของใครสักคน เราอ่านมันกี่เล่ม กี่รอบหรือไม่เคยอ่านสิ่งนั้นเลย
หากเรายังยืนจ้องมองเพียงภาพใดภาพหนึ่งนานเกินไป จนลืมไปว่าดาวเคราะห์โลกดวงนี้นั้นไม่ได้แบน โลกไม่ได้มีเราเป็นจุดศูนย์กลาง ไม่ได้มีใครเป็นศูนย์กลาง ทุกคนต่างมีหนังสือของตัวเอง และล้วนมีเรื่องราวอันแสนพิเศษมากมาย
009/333 : กระโจนเข้าไปแล้วลงมือทำให้เต็มที่
มองดูที่เป้าหมาย เข้าใจในอุปสรรค หยุดสงสัยในความสามารถของตัวเอง เป็นมิตรกับความท้าทาย แล้วโชว์ให้โลกรู้ว่าคุณทำอะไรได้บ้าง บนเส้นทางแห่งความสำเร็จนั้น
เพ่งไปยังจุดดึงดูดนั้น แม้มีแสงประกายมากมายที่แข่งกันส่องแสง แต่จะมีเพียงเราเท่านั้นที่จะเข้าใจว่า แสงไหนเหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด
010/333 : เรื่องราวที่ถูกเรียบเรียง
เริ่มต้นด้วยการสังเกต ฟัง และลงมือทำ สายใยของตัวอักษรเชื่อมต่อกับความคิด และเข้ากระตุกต่อมจินตนาการ
ในยุคหนึ่งของผู้คน มักถูกย่อความสรุปและถูกเรียบเรียง การถูกส่งต่ออย่างมีแบบแผนทำให้พวกเขาใส่ใจ และทะนุถนอมกับเรื่องราวของชีวิตและจิตวิญาณ
แต่เมื่อผ่านมาถึงยุคหนึ่งจิตใจที่ขาดที่พึ่ง
จะโหยหาความมั่นคง..ที่รวดเร็วกว่าเดิม จากความมั่นคงในหลักการของการกระทำ.....
.....กลายเป็นความง่ายเพียงการขอ
หลายคนเริ่มต้นด้วยการขอ ในขณะที่หลักการนั้นเริ่มต้นด้วยการให้
การขอจึงซึมผ่านวัฒนธรรมการติดสินบนเพื่อให้สำเร็จตามที่มุ่งหวัง เวลาผ่านมาทับถมซ้อนทับกันจนความบิดเบี้ยวกลายเป็นเรื่องปกติ
011/333 : กระโจนเข้าไปแล้วลงมือทำให้เต็มที่
ทุกสิ่งที่เราทำ มีผู้รู้และเห็นเสมอ...นั่นคือ เราเอง ความลับไม่มีวันจางหายจากภายในซอกของจิตใจ มันจะซ้อนอยู่ในนั้น ตัวเราในปัจจุบันจะมองเห็นตัวเองในอดีต
ผิด ถูก ดี ไม่ดี โกหก หรือซื่อสัตย์
ไม่ต้องพะวงกับคำป้ายสี ไม่ระเริงกับสิ่งลวง... อื่นๆอีกมากมายที่เราเองนั้นรู้ดี
ทำให้ดีที่สุดในทุกวัน อย่ากล่าวโทษตัวเอง หากคนอื่นกล่าวโทษเราว่ายังดีไม่พอ เพียงเรารู้จักตัวเองว่าเราได้ทำดีกว่าเดิม เพียงเท่านี้ความภาคภูมิใจก็บังเกิด
เมื่อนั้นการพัฒนาการจะเกิดขึ้น จนเราเองเริ่มมีมาตรฐานสูงขึ้น
012-333 : ตัวของใคร
"หนึ่งวัน ล้านความคิด มากความรู้สึก กับอดีตและอนาคต .....ปัจจุบัน หลุดลอย "
มีคนกล่าวว่า “หากคุณกำลังหดหู่ แสดงว่าคุณกลับไปโลกแห่งอดีต
หากคุณมีความกังวล คุณกำลังอยู่แต่ในอนาคตที่ไร้ความแน่นอน
และถ้าคุณอยู่อย่างมีความสุข นั่นแสดงว่าคุณกำลังใช้ชีวิตอยู่ลมหายใจในปัจจุบัน”
มันคงเป็นเช่นนั้นนั่นเอง
นั่งมองตัวตนของตัวเอง สีหน้า ท่าทาง การกระทำ
หลายๆครั้งก็อดที่จะสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่า นี่หรือ คือตัวของฉัน
แต่ก็นั่นแหละมันคือการพัฒนาการ
จากการได้ลงมือทำอะไรสักอย่างให้มันเต็มที่
013-333: หลุดโลก...หยุดโลก
ไม่มีใครสามารถพาเราไปยังสถานที่ที่เหมาะสมกับตัวเราได้
นอกจากเราต้องเดินทางเข้าไปหาด้วยตัวเอง
เมื่อเราออกตามหา เรียนรู้และเข้าใจ สถานที่นั้นจะปรากฏตัวให้เราได้เห็น
ความสำคัญอยู่ที่เราต้องเป็นผู้ที่จะเดินเข้าไปในนั้นด้วยตัวเอง
แม้ว่าก้าวที่ตัดสินใจเดินนั้นจะหลุดออกจากโลกใบเดิมที่คุ้นเคย
สู่โลกใบใหม่ที่เราไม่เคยรู้จัก รายล้อมไปด้วยความไม่รู้
และถูกสะกดไว้ด้วยความคิดของเราเอง
014-333: ในความเงียบ เราจะมองเห็นกัน
ในความเงียบ .... เราจะมองเห็นความลึกลับของจิตวิญาณที่ชาญฉลาด
เขามักอยู่ในความสงบ และเมื่อถึงเวลา
เขาจะค่อยๆปรากฏกายออกมา และยืนสงบนิ่งอยู่ด้านหน้า
เราจะค่อยๆเรียนรู้และรู้จักกับเขาอย่างแท้จริง
และแน่นอนว่าหากเราไม่เลือกที่จะมองเขา
จิตวิญาณที่แท้จริงนั้นจะหลบซ่อนตัวต่ออีกยาวนาน
.....................................
ตอนต่อไป ภาพที่ 015-021